เพื่อความปลอดภัย
1.หันหน้าไม้และลูกศรที่บรรจุอยู่ไปในทิศทางที่ปลอดภัยเสมอ
2.โหลดลูกศรเมื่อสามารถยิงได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น
3.ให้นิ้วของคุณอยู่ห่างจากไกปืนจนกว่าคุณจะพร้อมยิง
4.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป้าหมายของคุณและสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ข้างหลัง และถัดไปจากข้างหลัง
5.ตรวจสอบเส้นทางการเคลื่อนที่ของหน้าไม้เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่กระทบกับกิ่งไม้ หน้าต่าง หรือวัตถุอื่นๆ เมื่อคุณยิง
6.อย่ายิงขึ้นเนินเขาไปในที่ลับตาโดยไม่รู้ว่าด้านหลังมีอะไร
7.ยิงเฉพาะเมื่อคุณมีระยะหรือพื้นที่ยิงที่ปลอดภัย และมีแบ็คสต็อปหรือแบ็คกราวด์ที่ปลอดภัย
8.หลีกเลี่ยงการยิงหน้าไม้แบบแห้ง (เหนี่ยวไกโดยไม่มีลูกธนู) อาจทำให้หน้าไม้เสียหายร้ายแรงและทำให้ผู้ยิงบาดเจ็บได้
9.ห้ามยิงขึ้นไปในอากาศตรงๆ
10.อย่าให้นิ้วหรืออวัยวะส่วนใดอยู่บนรางขวางการเคลื่อนที่ของสาย
11.อย่าให้บุคคลที่ไม่มีความรู้ความชำนาญหยิบจับหรือใช้งานโดยปราศจากการควบคุมดูแล
12.ใช้ลูกศรที่ได้คุณภาพและมาตรฐานตามที่กำหนดเท่านั้น การดัดแปลง หรือใช้ลูกผิดไปจากมาตรฐานอาจทำให้เกิดการชำรุดเสียหายหรือได้รับบาดเจ็บ
13.ตรวจสอบน๊อตและจุดยึดลูกดอกและสายต่างๆให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยก่อนยิง และหลังยิง
14.ทาแว็กรักษาสายบางๆที่สาย ทุกๆ10ครั้งของการยิงเพื่อยืดอายุการใช้งาน
หมวดหมู่: บทความ
article บทความ
หน้าไม้
หน้าไม้เป็นเครื่องมือใช้ล่าสัตว์และเป็นอาวุธที่หวังผลตั้งแต่ระยะ 10 ถึง 30 เมตร คำว่า หน้าไม้ ไม่อาจอธิบายชื่อที่มาได้ชัดเจน แต่เท่าที่พิจารณาเห็นว่า มีส่วนประกอบทั้งหมดทำจากเนื้อไม้ ปรากฏพบเห็นใช้เขาควายเหลาเป็นไกแทนเนื้อไม้บ้าง นอกจากนั้นยังเคยได้ยินผู้เฒ่า เรียกว่า “หน้าเก้ง” เข้าใจว่าหน้าไม้ตัวใหญ่ คงใช้ล่าสัตว์ใหญ่ขนาดเก้งได้ ในสมัยก่อน กลุ่มนายฮ้อยค้าวัวควายต้องเดินทางไกลผ่านทุ่งนาป่าเขานิยมนำหน้าไม้ติดตัวเป็นอาวุธคู่กาย สร้างความอบอุ่นให้กับกองคาราวาน
หน้าไม้มีหลายขนาด ขนาดเล็กใช้ยิงนก หนู งู กระรอก กระแต ขนาดใหญ่ใช้ยิง ชะมด อีเห็น กระต่าย ไก่ป่า เก้ง กวาง รวมทั้งใช้เป็นอาวุธประจำตัว หน้าไม้ทำจากไม้เนื้อแข็ง เนื้อเหนียว เช่น ไม้ประดู่ ขัดเกลาเหลาเป็นแท่งยาว 70 เซนติเมตร สันบนตรงกลางเซาะเป็นรางตามยาว 30 เซนติเมตร ใช้สำหรับวางลูกดอก ที่โคนรางติดขี้สูด (ทำจากรัง แมลงชนิดหนึ่งคล้ายผึ้งแต่เล็กกว่า) เหนียวใช้ยึดลูกดอก เจาะกลางไม้ด้านบนทะลุลงด้านล่างห่างจากโคนปลายราง 4 เซนติเมตร เหลาไม้ทำไก (ดังรูป) สอดลงรูที่เจาะ บากไม้ขวางเป็นร่องสันหลังรูที่เจาะใช้วางเชือก จากปลายไม้ด้านหน้าถัดเข้ามาประมาณ 10 เซนติเมตร เจาะด้านข้างทะลุ เพื่อใช้สอดคันโก่ง คันโก่งทำจากไม้ชนิดเดียวกันหรือทำจากโคนไม้ไผ่ เหลาคล้ายคันธนูหนาและสั้นกว่า ยาวประมาณ 90 เซนติเมตร เหลาเกลาด้านหน้าให้โค้งมน แล้วสอบเรียวลงที่ปลายทั้งสองข้าง สอดลงในรูที่เจาะไว้ ปลายคันโก่งบากริมปลายทั้งสองข้างใช้คล้องเส้นเชือก (สายหน้าไม้) ทำจากปอหรือหนังควาย ทำเป็นเส้นเล็กๆ ขวั้นเป็นเกลียวหรือใช้เส้นหวายหรือเส้นที่ทำจากไม้ไผ่ ต่อร้อยที่หูทั้งสองข้างไม่ตึงแบบขึงคันธนู
ลูกดอกทำจากไม้ไผ่ เหลาเป็นเส้นตรงยาวประมาณ 40 เซนติเมตร หนากว่าร่องเล็กน้อย แต่วางลงให้แนบสนิทบนร่อง เสี้ยมปลายแหลมหรือเหลาให้บางคมหยักเป็นเงี่ยง หากเป็นหน้าไม้ที่ใช้ล่าสัตว์ขนาดใหญ่หรือเป็นอาวุธ อาบเคลือบด้วยยาพิษหรือกระดูกเป็ด ไก่ ที่สวมพอดีกับปลายลูกดอก เสี้ยมปลายเฉียงลับคมแหลม เมื่อยิงถูกเป้าหมายลูกดอกอาจถูกดึงให้โคนหลุดได้ แต่กระดูกยังคงฝังอยู่ในเนื้อ ผ่าที่โคนท้ายกลางลูกดอก เหลาไม้ไผ่เป็นแผ่นยาวบางเสียบเข้าในโคนหักพับเป็นรูปห้าเหลี่ยม ใช้เชือกมัดปลายลูกดอกเป็นหางใช้บังคับลูกดอกให้พุ่งตรงไปที่เป้าหมาย ลูกดอกที่ใช้จะทำประมาณ 10 ถึง 20 ดอก เพราะหน้าไม้เมื่อยิงออกไปลูกดอกจะพุ่งด้วยความไว เร็ว หากพลาดเป้าก็จะพุ่งหายไปในพุ่มไม้ด้านหน้า ดังนั้น ลูกดอกจึงต้องทำเผื่อหายไว้หลายดอกกันพลาดหายไป
หน้าไม้สามารถใช้ได้ตลอดปีตามความเหมาะสม เมื่อใช้จะดึงสายวางพาดขัดในร่องเชือกก่อน เมื่อเข้าไปในบริเวณที่จะปฏิบัติการ เห็นเป้าหมายก็จะวางลูกดอกบนรางให้โคนลูกดอกติดกับยางขี้สูด จ้องเล็งเป้าหมาย ใช้นิ้วดึงไกเข้ามาหาตัว ไกจะดันเชือกออกจากราง ดีดตีท้ายของลูกดอกพุ่งเข้าสู่เป้าหมาย หากใช้หน้าไม้ขนาดใหญ่กับสัตว์ ต้องใช้กลวิธีนิ่งเงียบ ไร้กลิ่น ไร้เสียง หน้าไม้ใหญ่มีสายแข็งมาก อาจใช้เท้ายึดเหยียบที่หลังคันไม้ ใช้มือน้าวสายวางเข้าร่องแล้วจึงวางลูกดอกลงเป้าหมาย
หน้าไม้ผิดกฏหมายหรือไม่
Gallery
ปืนยิงปลา มีความผิดเท่าปืนเถื่อนใหม
ปืนยิงปลา ที่ใช้กำลังจากยางยืด หรือ หนังสติ๊ก ยิงกระสุน ซึ่งเป็นไม้ เหล็ก หรือวัตถุอื่นใด มีลักษณะปลายแหลม
ถือว่าเป็นอาวุธโดยสภาพ ห้ามพาอาวุธนั้น ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะหรือพาไปในชุมนุมชน โดยเปิดเผย หรือไม่มีเหตุอันควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371
และ เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ
ผู้ครอบครอง สามารถครอบครองได้โดยไม่ต้องขออนุญาต การมีไว้ครอบครอง จึงไม่ผิดกฎหมาย เว้นแต่จะนำพาไปในเมือง หมู่บ้านฯ ตาม มาตรา 371
(มาตรา 371 ผู้ใดพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุสมควรหรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการการรื่นเริงหรือการอื่นใด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทและให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น
ถาม แล้วเป็นอาวุธปืน ตาม พรบ. อาวุธปืนหรือไม่
ตอบ เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน แต่ไม่ใช่อาวุธปืน ตาม พรบ.อาวุธปืน ซึ่งการครอบครองไม่ต้องขออนุญาตจากนายทะเบียน เนื่องจาก พรบ. อาวุธปืน ให้คำนิยามดังนี้
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
๑ “อาวุธปืน” หมายความรวมตลอดถึงอาวุธทุกชนิดซึ่งใช้ส่งเครื่องกระสุนปืนโดยวิธีระเบิดหรือกำลังดันของแก๊สหรืออัดลมหรือเครื่องกลไกอย่างใด ซึ่งต้องอาศัยอำนาจของพลังงาน และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธนั้น ๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวง
ดังนั้น ตามคำนิยามนี้ แม้ ปืนยิงปลาจะสามารถยิงหรือสางเครื่องกระสุนสำหรับยิงปลาไปได้ด้วยการอาศัยอำนาจพลังงานได้ แต่เครื่องกระสุนสำหรับปืนยิงปลาในที่นี้ ก็มิใช่เครื่องกระสุนปืนตามความหมาย ของ เครื่องกระสุน ในความหมายของ พรบ.อาวุธปืนฯ
ตามคำนิยามเครื่องกระสุนปืนดังนี้
(๒) “เครื่องกระสุนปืน” หมายความรวมตลอดถึงกระสุนโดด กระสุนปราย กระสุนแตก ลูกระเบิด ตอร์ปิโด ทุ่นระเบิดและจรวด ทั้งชนิดที่มีหรือไม่มีกรดแก๊ส เชื้อเพลิง เชื้อโรค ไอพิษ หมอกหรือควัน หรือกระสุน ลูกระเบิด ตอร์ปิโด ทุ่นระเบิดและจรวด ที่มีคุณสมบัติล้ายคลึงกัน หรือเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำ หรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืน
ดังนั้น ลูกกระสุนสำหรับปืนยิงปลา จึงไม่ใช่เครื่องกระสุนตาม พรบ .อาวุธปืน ปืนยิงปลาไม่สามารถใช้ยิงเครื่องกระสุนตาม พรบ.อาวุธปืนได้ จึงไม่ใช่อาวุธปืนตามกฎหมาย ผู้ครอบครอง ซื้อขาย นำพา จึงไม่มีความผิด เว้นแต่นำไปใช้ในการกระทำผิดเท่านั้น
ปืนยิงปลา จึงไม่ผิดเหมือนปืนเถื่อน เพราะไม่ใช่ปืน ตามกฎหมาย อาวุธปืน
Credit : ขอบคุณท่านทนายเกิดผล